วันศุกร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2553

หนังสือ


                                                   -ชื่อเรื่อง ครูมืออาชีพตามมาตรา 24

                                                                                           ผู้แต่ง สกศ
    เนื้อหาประกอบด้วย


               การจัดกระบวนการเรียนรู้ ฝึกทักษะ กระบวนการคิด

               การจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ประสบการณ์

               การจัดการสอนโดนผสมผสานสาระความรู้ด้านต่างๆ





                                                          - ชื่อเรื่อง สอนให้เป็นอัจริยะ


                                                          ผู้แต่ง เกียรติวรรณ อมาตยกุล
เนื้อหาประกอบด้วย


             การศึกษาแบบใหม่กับเด็ก

            วิกฤตการณ์ในห้องเรียน

            หนังสือเล่มนี้ได้นำเสนอวิธีการพัฒนาคนแนวใหม่ที่จะช่วยให้คนเราได้นำความสามารถ

            ที่มีอยู่ในตัวออกมาใช้ได้มากที่สุด เพื่อให้คนเราทุกคนมีอกาสเป็น อัจฉริยและมีความสุข





                                                        - ชื่อเรื่อง ครูประจำชั้นมืออาชีพ


                              ผู้แต่ง สุปราณี จิราณรงค์ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เนื้อหาประกอบด้วย


1. ลักษณะครูที่ดี ตามแนวคิดของ เฮสซองและวีคส์ (Hessong and Weeks)
2.คุรุสภาในฐานะองค์กรวิชาชีพครูได้กำหนดแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณครู พ.ศ.2539

จรรยาบรรณข้อที่ 1 ครูต้องรักและเมตตาศิษย์โดยให้ความเอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กำลังใจ ในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า

จรรยาบรรณข้อที่ 2 ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามให้แก่ศิษย์อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ

จรรยาบรรณข้อที่ 3 ครูต้องประพฤติปฎิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกายวาจา และจิตใจ

จรรยาบรรณข้อที่ 4 ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์ และสังคมของศิษย์

จรรยาบรรณข้อที่ 5 ครูต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฎิบัติหน้าที่ตามปกติและไม่ใช้ศิษย์กระทำการใดๆ อันเป็นการหาประโยชน์ให้แก่ตนโดยมิชอบ

จรรยาบรรณข้อที่ 6 ครูย่อมพัฒนาตนเองทั้งด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพ และวิสัยทัศน์ให้ทันต่อการพัฒนาทางวิชาการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอยู่เสมอ

จรรยาบรรณข้อที่ 7 ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครู และเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรวิชาชีพครู

จรรยาบรรณข้อที่ 8 ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์

จรรยาบรรณข้อที่ 9 ครูพึงประพฤติ ปฎิบัติตนเป็นผู้นำในการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย



3.ครูประจำชั้นมืออาชีพ

ในการสอนแต่ละคาบ ครูจะต้องเตรียมการดังนี้

1. ครูต้องเตรียมนักเรียนให้พร้อมก่อนสอน

2. ครูควรมีขั้นนำเข้าสู่บทเรียน

3. ขั้นสอนครูควรสอนให้ตรงประเด็น

4. เวลาสอนครูควรสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนทุกคนว่าเป็นอย่างไร

5. ก่อนจบการสอนทุกครั้งควรมีการสรุปแนวคิดที่สำคัญของบทเรียน

6. ทำบันทึกหลังการสอนเพื่อเก็บข้อมูล

7. มีการประเมินผลการเรียนการสอน

งานวิจัย

             งานวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลต่อสมรรถนะการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา

     ในสถานศึกษาที่เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร เขต2

                                       มาตรฐานที่ 6 การบริหารจัดการในห้องเรียน

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการความรู้

การจัดการความรู้


(Knowledge Management - KM)
การจัดการความรู้ (อังกฤษ: Knowledge management - KM) คือ การรวบรวม สร้าง จัดระเบียบ แลกเปลี่ยน และประยุกต์ใช้ความรู้ในองค์กร โดยพัฒนาระบบจาก ข้อมูล ไปสู่ สารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้ และ ปัญญา ในที่สุด

การจัดการความรู้ประกอบไปด้วยชุดของการปฏิบัติงานที่ถูกใช้โดยองค์กรต่างๆ เพื่อที่จะระบุ สร้าง แสดงและกระจายความรู้ เพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้และการเรียนรู้ภายในองค์กร อันนำไปสู่การจัดการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการธุรกิจที่ดี องค์กรขนาดใหญ่โดยส่วนมากจะมีการจัดสรรทรัพยากรสำหรับการจัดการองค์ความรู้ โดยมักจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศหรือแผนกการจัดการทรัพยากรมนุษย์

รูปแบบการจัดการองค์ความรู้โดยปกติจะถูกจัดให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ขององค์กรและประสงค์ที่จะได้ผลลัพธ์เฉพาะด้าน เช่น เพื่อแบ่งปันภูมิปัญญา,เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน, หรือเพื่อเพิ่มระดับนวัตกรรมให้สูงขึ้น

นิยาม

ปัจจุบันโลกได้เข้าสู่ยุคเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-based Economy – KBE) งานต่างๆ จำเป็นต้องใช้ความรู้มาสร้างผลผลิตให้เกิดมูลค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น การจัดการความรู้เป็นคำกว้างๆ ที่มีความหมายครอบคลุมเทคนิค กลไกต่างๆ มากมาย เพื่อสนับสนุนให้การทำงานของแรงงานความรู้ (Knowledge Worker) มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น กลไกดังกล่าวได้แก่ การรวบรวมความรู้ที่กระจัดกระจายอยู่ที่ต่างๆ มารวมไว้ที่เดียวกัน การสร้างบรรยากาศให้คนคิดค้น เรียนรู้ สร้างความรู้ใหม่ๆ ขึ้น การจัดระเบียบความรู้ในเอกสาร และทำสมุดหน้าเหลืองรวบรวมรายชื่อผู้มีความรู้ในด้านต่างๆ และที่สำคัญที่สุด คือการสร้างช่องทาง และเงื่อนไขให้คนเกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน เพื่อนำไปใช้พัฒนางานของตนให้สัมฤทธิ์ผล


ประเภทของความรู้

ความรู้เด่นชัด (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่อยู่ในรูปแบบที่เป็นเอกสาร หรือ วิชาการ อยู่ในตำรา คู่มือปฏิบัติงาน

ความรู้ซ่อนเร้น/ความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge) เป็นความรู้ที่แฝงอยู่ในตัวคน เป็นประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนาน เป็นภูมิปัญญา

โดยที่ความรู้ทั้ง ๒ ประเภทนี้มีวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน

การจัดการ “ความรู้เด่นชัด” จะเน้นไปที่การเข้าถึงแหล่งความรู้ ตรวจสอบ และตีความได้ เมื่อนำไปใช้แล้วเกิดความรู้ใหม่ ก็นำมาสรุปไว้ เพื่อใช้อ้างอิง หรือให้ผู้อื่นเข้าถึงได้ต่อไป (ดูวงจรทางซ้ายในรูป) ส่วนการจัดการ “ความรู้ซ่อนเร้น” นั้นจะเน้นไปที่การจัดเวทีเพื่อให้มีการแบ่งปันความรู้ที่อยู่ในตัวผู้ปฏิบัติ ทำให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน อันนำไปสู่การสร้างความรู้ใหม่ ที่แต่ละคนสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงานได้ต่อไป (ดูวงจรทางขวาในรูป)







ในชีวิตจริง ความรู้สองประเภทนี้จะเปลี่ยนสถานภาพ สลับปรับเปลี่ยนไปตลอดเวลา บางครั้ง Tacit ก็ออกมาเป็น Explicit และบางครั้ง Explicit ก็เปลี่ยนไปเป็น Tacit

ระดับของความรู้

หากจำแนกระดับของความรู้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ระดับ คือ

ความรู้เชิงทฤษฏี (Know-What) เป็นความรู้เชิงข้อเท็จจริง รู้อะไร เป็นอะไร จะพบในผู้ที่สำเร็จการศึกษามาใหม่ๆ ที่มีความรู้โดยเฉพาะความรู้ที่จำมาได้จากความรู้ชัดแจ้งซึ่งได้จากการได้เรียนมาก แต่เวลาทำงาน ก็จะไม่มั่นใจ มักจะปรึกษารุ่นพี่ก่อน

ความรู้เชิงทฤษฏีและเชิงบริบท (Know-How) เป็นความรู้เชื่อมโยงกับโลกของความเป็นจริง ภายใต้สภาพความเป็นจริงที่ซับซ้อนสามารถนำเอาความรู้ชัดแจ้งที่ได้มาประยุกต์ใช้ตามบริบทของตนเองได้ มักพบในคนที่ทำงานไปหลายๆปี จนเกิดความรู้ฝังลึกที่เป็นทักษะหรือประสบการณ์มากขึ้น

ความรู้ในระดับที่อธิบายเหตุผล (Know-Why) เป็นความรู้เชิงเหตุผลระหว่างเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ผลของประสบการณ์แก้ปัญหาที่ซับซ้อน และนำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้อื่น เป็นผู้ทำงานมาระยะหนึ่งแล้วเกิดความรู้ฝังลึก สามารถอดความรู้ฝังลึกของตนเองมาแลกเปลี่ยนกับผู้อื่นหรือถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้พร้อมทั้งรับเอาความรู้จากผู้อื่นไปปรับใช้ในบริบทของตนเองได้

ความรู้ในระดับคุณค่า ความเชื่อ (Care-Why) เป็นความรู้ในลักษณะของความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ที่ขับดันมาจากภายในตนเองจะเป็นผู้ที่สามารถสกัด ประมวล วิเคราะห์ความรู้ที่ตนเองมีอยู่ กับความรู้ที่ตนเองได้รับมาสร้างเป็นองค์ความรู้ใหม่ขึ้นมาได้ เช่น สร้างตัวแบบหรือทฤษฏีใหม่หรือนวัตกรรม ขึ้นมาใช้ในการทำงานได้

หนังสือ

                                    
                                 หนังสือเล่มนี้มี มีเนื้อหาที่ประกอบ ดังต่อไปนี้


                                     *ในความเป็นครู
                                                -ครูตามแนวพระราชดำริ
                                                -แดเพื่อนครูผู้ร่วมอุดมการณ์
                                                -ครู:สถาปนิกและวิศกรสังคม

                                     *ยุทธศาสตร์การจัดการเรียนรู้ยุคใหม่
                                                -กลยุทธิ์ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
                                                -บันทึกการเรียนรู้
                                                -การวิจัยในชั้นเรียน(อันนี้สำคัญค่ะ เพราะตรงกับที่เราเรียนอยู่ตอนนนี้)

                                      *วินัยสำหรับข้าราชการครู
                                                 -ข้อคิดเกี่ยวกับการรักษาวินัยสำหรับข้าราชการ
                                                 -ศาลปกครองกับวินัยข้าราชการครู

หนังสือ เรื่องเหตุเกิดที่บ้านและโรงเรียน

หนังสือเล่มนี้ เป็นเหมือนกับเรื่องสั้นๆ ที่มีตัวละครต่างๆเป็นตัวดำเนินเรื่อง แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเรียน ดังเช่น เรื่องของปิ่นที่ต้องสอบเข้าเรียน ป.1 จึงเกิดความเครียดอย่างมาก หากตนสอบไม่ได้เป็นต้น...


ดิฉันคิดว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่สอบอ่านหนังสือซักเท่าไหร่ ด้วยหนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องเป็นเหมือนบทละคร จึงทำให้เกิดความสนุกสนานมากขึ้นในการอ่านเพื่อให้เกิดประโยชน์

หนังสือเรื่องทำอย่างไรถึงจะได้เป็นครู

หนังสือเล่มนี้เหมาะเพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับครูและผู้อยู่ในวงการวิชาชีพครู จะได้ยึดถืเป็นแบบอย่างในการประพฤติตนของครู นอกจากนี้หนังสือเล่มนี้ได้คัดเลือกและประกาศเกียรติคุณ ครูผู้ปฏิบัติงานมีผลงานดีเด่นตลอดจนการรวบรวมแนวความคิด เคล็ดลับและวิธีการทำงานในหน้าที่ครูจนประสบความสำเร็จ ซึ่งหนังสือเล่มนี้เหมาะสมอย่างยิ่ง แก่ผู้รักความก้าวหน้าทุกคน

แนะนำวิจัย

ผลการใช้โปรแกรมส่งเสริมการเห็นคุณค่าในตนเอง

                               ด้านบทบาทครูวิจัยและสมรรถนะการวิจัยในชั้นเรียนที่มีต่อนักศึกษาครู
                                             ในการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูแบบเต็มรูป

                                                                ปริญญานิพนธ์

                                                                       ของ
                                                             บุญสิทธิ์ ไชยชนะ
                                                                 ผู้แนะนำวิจัย

                                                              กมลทิพย์ อุดมภ์



                                   การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเสริมสร้างทักษะการปฏิบัติวิชาชีพ

                                เพื่อพัฒนาผู้เรียนแบบองค์รวม สำหรับครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน


                                                               ปริญญานิพนธ์
                                                                     ของ
                                                               สันต์ ศูนย์กลาง

                                                                ผู้แนะนำวิจัย
                                                              วนิตรา อยู่ยงค์